วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

สองฝั่งเจ้าพระยาสวยมากๆ




สวัสดีค่ะชาว NEC ศรีนนท์

วันนี้ขอเอาบรรยากาศล่องเรือ ริเวอร์ไซด์ Riverside Cruise ล่องเรือดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา มาฝากสำหรับคนที่ไม่ได้ไปชื่นชมความสำราญ และความงามของกรุงเทพฯยามราตรีกันนะคะ ขอบอกว่าสนุกมากๆเลยค่ะ

ตู่เริ่มเดินทางจากนนทบุรีโดยนัดพบกับพี่พร(ทรงพร จารุสมบัติ พี่สาวคนดีของตู่)ที่ท่าน้ำนนท์ เวลา16.00 น. ตู่ก็ไปถึงตามเวลาเลยค่ะ 16.45 น. หุหุ คือว่าเวลามันเดินล่วงหน้าไปแล้ว 45 นาทีแล้วตู่ก็ตามเวลามาไง( ที่มาช้านี่มีเหตุผลอธิบายได้นะคะอยากรู้ถามพี่พรได้ค่ะ บอกกับพี่พรไปแล้ว) เมื่อถึงที่นัดพบก็มองหาพี่สาวไม่เจอในใจยังแอบนึกว่าพี่คงไปรอท่าเรือซังฮี้แล้ว ยืนงงอยู่สักพักก็มีคนเดินเข้ามาหา ถามว่ามาแล้วเหรอ? พี่พรนั่นเอง..พี่เขาไม่เห็นมาซะทีเลยกลับไปโทรศัพท์สั่งคนที่บ้านว่าถ้าตู่โทรไปให้บอกว่า มารอที่ท่าน้ำ....นานแล้ว.
เมื่อพร้อมกันแล้ว ก็ลงเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าน้ำนนท์ไปที่ท่าเรือสะพานซังฮี้ ค่าโดยสารท่านละ 15 บาท งานนี้พี่สาวออกให้ ตู่เลยนั่งฟรี นั่งคุยกันแป็บเดียวเรือก็ถึงท่าสะพานซังฮี้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ขึ้นจากเรือเราก็เดินมาหาวินมอเตอร์ไซด์นั่งไปที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ ค่ารถก็ 5-7 บาท จริงๆแล้วจากท่าเรือกับโรงแรมก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณ 200 เมตรเดินออกกำลังก็พอไหว เหงื่อยังไม่ทันออกด้วยซ้ำ แต่วันนี้ขอออมกำลังไว้ก่อนเลยขอนั่งมอไซด์ดีกว่า
ถึงโรงแรมริเวอร์ไซด์ก็พบเจ้จ๋า สาวไฮโซ ไฮซ้อเจ้าของงานกำลังก้มๆเงยผลุบๆโผล่ๆอยู่ข้างรถ คันเก่งของพี่แก กำลังเตรียมสัมภาระและเสบียงอาหาจะเอาลงเรือด้วย ก็เลยช่วยกันหอบหิ้วเข้าไปในโรงแรม
ด้านในโรงแรม มีมารอกันอยู่หลายท่านหน้าเดิมๆทั้งนั้น ตั้งแต่ ท่านผู้หญิงหนุ่ย พี่ติ๋มเหรัญญิกคนสวย น้องเปิ้ลเลขาที่แสนจะน่ารัก และก็น้องอึ่ง เอ้ย!น้องฐาคนงาม นั่งอยู่ที่ lobby คุยกันอยู่ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในช่วงที่ไม่เจอกันแล้วก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน 18.30 น.เราก็เริ่มย้ายไปลงเรือนับสมาชิกได้ 12 ท่าน มี พี่เข็ม พี่หนุ่ย พี่ติ๋ม พี่พร พี่กร พี่โจ๊ก น้องป่าน น้องเปิ้ล น้องหวาน น้องฐา พี่จ๋า และก็ตู่ นอกนี้ยังมี พี่โต้งแฟนพี่จ๋าและหลานๆมาร่วมโต๊ะอีก 7 ท่าน รวมแล้ว 19 ท่าน กว่าจะจัดโต๊ะให้ลงตัวได้ทำเอาบริกรหน้างอเป็นจวักไปเลย
หลังจากสั่งอาหาร เราคิดค่าอาหารแล้วรีบแชร์กันออก งานนี้จ่ายค่าเรือให้เจ้จ๋าเจ้าของ member คนละ 100 บาท ค่าอาหารอีกคนละ 300 บาท รวม 400 บาท ก็ถือว่าคุ้มนะคะ อาหารเริ่มเสริฟ หลายท่านก็เริ่มทานกินไป คุยกันไป บางคนได้ครึ่งจาน บางคนหมดจาน บางคนขอเพิ่ม บางคนขอเบิ้ล บางคนสามจาน บางคนสี่จาน บางคนจะขอห่อกลับบ้าน บางคนขอน้ำ ขอทิชชู ขอน้ำแกงเพิ่ม ขอไวน์ ขออัลกอฮอร์เติมไฟ ขอผ้าเช็ดน้ำที่หกเปียก ขอกุ้ง ขอเมี่ยงคำ ขอผลไม้ ขอไปเข้าห้องน้ำ ขอ..ขอ..ขอ.. และก็ ขอ
งานนี้บริกรบอกว่าต้องบริการแบบ "ขอไปที"จนเราต้องร้องขอบริกรเป็นครั้งสุดท้ายว่า "ขอให้ยิ้มๆหน่อย!"
จัดการกับอาหารเรียบร้อยแล้วเรือก็เริ่มออกจากท่า ตอนนั้นเวลาประมาณ 20.10 น.พวกเราก็เฮละโลกันขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือสายลมที่พัดมา โรสจำได้ว่าแรงพอๆกับที่โรสยืนอยู่ที่หัวเรือกับเจ็คคืนนั้นบนเรือไททา.. หุหุ.. ไปดูวิวสองฝั่งเจ้าพระยายามค่ำ บ้านริมน้ำ โรงแรม ตึก อาคารที่ทำการสูงตระหง่านระฟ้า วัดวาอาราม สะพานข้ามแม่น้ำที่เรือลอดผ่าน รถยนต์ที่วิ่งข้ามหัวไปมา เรือสำราญที่แล่นสวนไปสวนมา เรือขนถ่ายสินค้าที่จอดชายฝั่ง ผู้คนที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆ กรุงเทพฯยามราตรียังไม่หลับ ยังสับสน วุ่นวาย เหมือนกับในเรือลำนี้ ด้านล่างหน้าเวที นักร้องสาว-หนุ่มกำลังร้องเพลงในจังหวะ โจ๊ะ จ๊ะ นักดิ้นก็ออกมาวาดลวดลายกันหน้าเวที พวกเรากลับลงมาข้างล่างเมื่อเรือเริ่มหันหัวเรือกลับ เข้ามาในเรือได้ยินเสียงเพลงอวยพรวันเกิดให้สำหรับคนที่เกิดในวันนี้ 31 พ.ค.เราก็เลยเข้าไปแจมกับเขา แล้วก็รับเค้กก้อนใหญ่มานั่งทานกัน เสริมสร้างไขมันสะสมไว้เยอะๆ อายุมากแล้วต้องดูดีมีราศรีไว้ก่อน..555
จากนั้นเราก็เข้าครอส สลายไขมัน พี่ติ๋มมาชวนตู่ไปหน้าเวที ตู่ก็เลยพาพี่ติ๋มรีดไขมัน ด้วยการออกไป แฮร์โทนิค เอ้ย! แอโรบิคแดนซ์ ซะครึ่งชั่วโมง ได้เหงื่อแล้วก็กลับมานั่งพัก อ้าว!เลิกงานพอดี
พี่ติ๋มแจกใบประกาศให้แต่ละคนที่มาร่วมงาน พี่จ๋าก็ไม่ยอมน้อยหน้า หอบนาฬิกาตั้งโต๊ะมาแจกบ้าง ตู่ก็รับทั้งหมดไม่ปฏิเสธใครซักคน.. เดินขึ้นจากเรือ บริกรมายืนยิ้มอยู่ที่ประตูเป็นแถว กล่าวคำขอบคุณคราวนี้ยิ้มจนปากกว้างถึงใบหู ผิดกับตอนที่กำลังทำหน้าที่คงจะดีใจอไรบ้างอย่าง..
ด่านสุดท้าย รูปภาพแห่งความประทับใจ มีภาพของเราๆท่านๆขณะที่อยู่บนเรือติดอยู่บนจานที่ระลึก 20 ปี ของโรงแรมริเวอร์ไซด์ ขายราคา 199 บาท มีโปรโมชั่นบัตรขึ้นเรือ 1 ท่าน ราคา 120 บาท หมดอายุ 31 ส.ค.31 ให้ฟรี 1 ใบ หลายๆคนก็ซื้อเก็บไว้ที่ลึกๆ!!!
ขากลับ ตู่กลับรถน้องป่าน (พี่ชายของหยั่นหว่อหยุ่น) ผู้โดยสารที่เป็นเพื่อนร่วมทางก็มี พี่หนุ่ย พี่พร ฐาและป่าน ป่านส่งพี่ตู่ เป็นคนแรก แล้วก็พี่พรที่ รพ.พระนั่งเกล้า ฐาถนนสนามบินน้ำ และพี่หนุ่ยเป็นคนสุดท้ายที่ ปากเกร็ด

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ล่องเรือเจ้าพระยา


ด่วนมากจ้ะ รายการนี้แจ้งมาด่วนๆเลยค่ะ
เจ้จ๋าสาวน้อยที่ go-Inter ทำธุรกิจส่งออกหลายชนิด
she จะพาพวกเราขึ้นเรือสำราญ ทานข้าว เคล้าเสียงเพลง
ชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หาภาพประทับใจอีกแบบ
เราจะขึ้นเรือ วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2551 เวลา17.30 น. รับจำนวนจำกัดนะคะ
20 ท่านเท่านั้น ค่าใช้จ่ายถามพี่จ๋าอีกครั้งนะคะ

รับใบประกาศนียบัตร


สวัสดีค่ะชาว NEC ศรีนนท์

พบกันอีกแล้วนะจ๊ะ เบื่อหรือยัง?
ถ้าเบื่อแล้วก็ไม่ต้องอ่าน...ถ้ายังก็อ่านต่อนะ
มีข่าวแจ้งให้ทราบอีกเรื่องนึง นะคะ
ตอนนี้ใบประกาศนียบัตรรุ่นเราทั้งหมด คุณพี่ติ๋มได้รับจากสมาคม ACDA มาแล้ว
จะแจกให้วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2551 ที่ ร้านอาหารระเบียงน้ำ
(ข้างวัดแคนอก ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรีร้านที่สมาชิกบ้างท่านเคยไปลิ้มรสอาหารมาแล้วการันตีได้)
เวลาเย็นๆแดดร่มลมตกแล้วนั่นแหละ ทานข้าวไป รับใบประกาศไปด้วย คุยกันไปอร่อยดีค่ะ
ขอให้ไปพร้อมกันให้ได้นะคะ หลายๆท่านบอกว่า เริ่มจะลืมหน้าเพื่อนสมาชิกไปบ้างแล้ว..
และถ้าผู้ใดไม่สะดวกไป ต้องการรับเป็นการส่วนตัวก็ติดต่อคุณพี่ติ๋มอีกที่นะคะ

แจ้งให้ทราบเท่านี้ค่ะ หวังว่าทุกท่านคงมารับใบประกาศพร้อมกันนะคะ

ธุรกิจเจริญรุ่งเรื่องนะคะ

'tou

ประกาศนียบัตรออกแล้ว


สวัสดีจ้ะ สมาชิก NEC ศรีนนท์

สบายดีกันอยู่หรือเปล่า? ว่างเว้นการได้พูดคุยกันซะนานหลายวัน หวังว่าคงจะสบายดีอยู่นะ
เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2551 'tou ได้คุยกับคุณหนิง เจ้าหน้าที่ของ ACDA
คุณหนิงแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ใบประกาศนียบัตรของรุ่นเรานั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถแจกให้สมาชิกได้แล้ว
โดยคุณหนิงจะนำเอกสารทั้งหมดมอบไว้ที่ประธานรุ่น (คุณโจ้ ปธานิณ)แล้วให้สมาชิกติดต่อรับได้ที่ประธานรุ่นนะจ๊ะ

วันนี้คงได้แค่นี้ แล้วพบกันใหม่

คิดถึงทุกๆคนเลย

'tou

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ป่าน้ำฟ้า รีสอร์ท




ป่า น้ำ ฟ้า รีสอร์ท เป็นการทำสวนเกษตรแบบผสมผสาน น้าขวัญเป็นเจ้าบ้านที่น่ารักมาก พาพวกเราเข้าไปเดินชมในสวน (เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่) มีต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับมีตั้งแต่ พริก มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ (ฟัก แฟง แตงโม ไชโย โห่ฮิ้ว!!)ฝรั่ง กล้วย หน่อไม้ ไผ่หลายพันธุ์มาก ชะอม ลีลาวดี พุทธรักษา ต้นรัก ยูคาลิปตัส ในคูน้ำก็มีบัวกินสาย บัวกินฝัก ยังมีอื่นๆอีกมากมาย บรรยายไม่หมด
เมื่อเข้าไปแล้วผู้เขียนก็ได้แต่นึกถึงสมัยตอนที่ยังตัวเล็กๆ อยู่ที่อยุธยา บ้านของคุณตาคุณยายก็มีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากบ้านของน้าขวัญเท่าไร เลยทำให้คิดว่าถ้ามีโอกาสได้มีที่ดินซักแปลงเล็กๆคงจะได้เป็นน้าขวัญ2บ้างหละ เพราะเป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย สบายๆ ไม่วุ่นวายเหมือนสังคมเมืองในปัจจุบัน

วิวยอดเขาพระยาเดินธง



วิวยอดเขาพระยาเดินธง
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้านล่างเป็นภาพที่สวยงามมาก ยิ่งถ้าได้เห็นแสงของพระอาทิตย์ที่กระทบกับผืนน้ำช่วงพระอาทิตย์ขึ้นด้วยแล้วประทับใจมากๆ อากาศก็เย็นสบายสดชื่นจริงๆ

เขาพระยาเดินธง



ทางขึ้นเขาพญาเดินธง
เป็นทางโขดหิน และหินดินดานที่ขรุขระมาก ถนนหนทางขับขึ้นบนเป็นทาง country road ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ก่อนที่เราจะขึ้นมากันนี้ ฝนก็ตกทำให้ทางยังเปียกๆอยู่ ตอนกลางคืนยังคิดในใจว่าถ้ารุ่งเช้าฝนไม่หยุดตก คงอดขึ้นมาไหว้พระและชมวิวยอดเขากันแน่ๆ โชคดีที่ฝนหยุดตกแต่ก็ยังเสียดายที่ตั้งใจมาทำบุญกันที่สำนักสงฆ์บนยอดเขาแต่หลวงพ่อไม่อยู่ ได้ยินผู้ที่ติดต่อนิมนต์หลวงพ่อบอกว่านิมนต์ไว้แล้วแต่หลวงพ่อก็ไม่อยู่ เลยฝากของไว้กับลูกศิษย์ให้ถวายหลวงพ่อให้ด้วย บนเขา อากาศเย็นสบาย ลมพัดแรง สดชื้น สดชื่น เป็นสถานที่ที่น่าไปพักผ่อนมากๆ วิวบนเขามองลงมาเห็นเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ และรอบๆเขาด้วย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์


..มองไกลๆที่ปากทางเข้าสันเขื่อนเห็น "หลวงพ่อใหญ่" องค์ขาวสง่างดงามตั้งเด่นอยู่

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ภาพแห่งความประทับใจ

ไปมาแล้วววว



ฟาร์มเลี้ยงผึ้งของคุณลุงสอาด มีผลิตพันธุ์จากผึ้งจำหน่ายหลายชนิดด้วยกัน ทั้งน้ำผึ้งแท้ นมผึ้ง เกสรผึ้ง ไขผึ้ง พร้อมทั้งบริการข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในประเทศไทย งานนี้นักช็อพหลายๆคนแบกของกลับบ้านกันคนละลัง สองลังประทับใจกันทั่วหน้า

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

วัดพระพุทธบาท


วัดพระพุทธบาท นามทางราชการว่า วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดพิเศษ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อปีพุทธศักราช ๒๑๖๗ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น นับถึงปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๖) วัดพระพุทธบาทฯ มีอายุ ๓๗๙ ปี เนื่องมาจากที่พระองค์ได้ทอดพระเนตรรอยพระพุทธบาทประดิษฐาน ณ ที่นั้นมีพระราชศรัทธาเลื่อมใส โปรดเกล้าฯ ให้ช่างก่อเรือนคฤหหลังน้อยครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นการชั่วคราวก่อน หลังจากได้เสด็จกลับราชธานีกรุงศรีอยุธยา ได้เริ่มงานสถาปนายกสถานที่รอยพระพุทธบาทขึ้นเป็นพระมหาเจดีย์สถานและโปรดให้สร้างพระมหามณฑปครอบรอยพระพุทธบาท พร้อมกับโปรดให้ เจ้าพนักงานสร้างพระอารามสำหรับพระภิกษุ สามเณรอยู่อาศัยประจำ เพื่อการดูแลรักษาและบำเพ็ญสมณธรรมสืบไป
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอพระพุทธบาทเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ปูชนียสถานที่สำคัญคือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี รอยพระบาทมีความ กว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม
พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราว ครอบรอยพระบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย ลักษณะของพระมณฑป เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง ปิดทองประดับกระจกโดยรอบ ฝาผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม มีพุ่มข้าวบิณฑ์ บานประตูพระมณฑปเป็นงานศิลปกรรมประดับมุกชั้นเยี่ยมของเมืองไทย พื้นภายในปูด้วยเสื่อเงินสาน ทางขึ้นพระมณฑปเป็นบันไดนาคสามสาย ซึ่งหมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์ หัวนาคที่เชิงบันไดหล่อด้วยทองสำริด เป็นนาค 5 เศียร บริเวณรอบมณฑปมีระฆังแขวนเรียงราย เพื่อให้ผู้ที่มานมัสการได้ตีเป็นการแผ่ส่วนกุศลแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย พระอุโบสถ และพระวิหารต่าง ๆ ที่อยู่รายรอบ ล้วนสร้างตามแบบศิลปกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์
นอกจากนี้ ในบริเวณวัดยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท (วิหารหลวง) ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่ายิ่ง อาทิ เครื่องทรงสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศของพระสมัยต่าง ๆ และท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท ซึ่งปกติจัดให้มีปีละ 2 ครั้ง คือตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงแรม 1 ค่ำ และตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 จนถึงแรม 1 ค่ำ
http://watphraphutthabat.com/home/index.php?option=com_content&task=view&id=59&Itemid=50

http://watphraphutthabat.com/home/index.php?option=com_content&task=view&id=59&Itemid=50&limit=1&limitstart=1