

สวัสดีค่ะชาว NEC ศรีนนท์
วันนี้ขอเอาบรรยากาศล่องเรือ ริเวอร์ไซด์ Riverside Cruise ล่องเรือดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา มาฝากสำหรับคนที่ไม่ได้ไปชื่นชมความสำราญ และความงามของกรุงเทพฯยามราตรีกันนะคะ ขอบอกว่าสนุกมากๆเลยค่ะ
ตู่เริ่มเดินทางจากนนทบุรีโดยนัดพบกับพี่พร(ทรงพร จารุสมบัติ พี่สาวคนดีของตู่)ที่ท่าน้ำนนท์ เวลา16.00 น. ตู่ก็ไปถึงตามเวลาเลยค่ะ 16.45 น. หุหุ คือว่าเวลามันเดินล่วงหน้าไปแล้ว 45 นาทีแล้วตู่ก็ตามเวลามาไง( ที่มาช้านี่มีเหตุผลอธิบายได้นะคะอยากรู้ถามพี่พรได้ค่ะ บอกกับพี่พรไปแล้ว) เมื่อถึงที่นัดพบก็มองหาพี่สาวไม่เจอในใจยังแอบนึกว่าพี่คงไปรอท่าเรือซังฮี้แล้ว ยืนงงอยู่สักพักก็มีคนเดินเข้ามาหา ถามว่ามาแล้วเหรอ? พี่พรนั่นเอง..พี่เขาไม่เห็นมาซะทีเลยกลับไปโทรศัพท์สั่งคนที่บ้านว่าถ้าตู่โทรไปให้บอกว่า มารอที่ท่าน้ำ....นานแล้ว.
เมื่อพร้อมกันแล้ว ก็ลงเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าน้ำนนท์ไปที่ท่าเรือสะพานซังฮี้ ค่าโดยสารท่านละ 15 บาท งานนี้พี่สาวออกให้ ตู่เลยนั่งฟรี นั่งคุยกันแป็บเดียวเรือก็ถึงท่าสะพานซังฮี้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ขึ้นจากเรือเราก็เดินมาหาวินมอเตอร์ไซด์นั่งไปที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ ค่ารถก็ 5-7 บาท จริงๆแล้วจากท่าเรือกับโรงแรมก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณ 200 เมตรเดินออกกำลังก็พอไหว เหงื่อยังไม่ทันออกด้วยซ้ำ แต่วันนี้ขอออมกำลังไว้ก่อนเลยขอนั่งมอไซด์ดีกว่า
ถึงโรงแรมริเวอร์ไซด์ก็พบเจ้จ๋า สาวไฮโซ ไฮซ้อเจ้าของงานกำลังก้มๆเงยผลุบๆโผล่ๆอยู่ข้างรถ คันเก่งของพี่แก กำลังเตรียมสัมภาระและเสบียงอาหาจะเอาลงเรือด้วย ก็เลยช่วยกันหอบหิ้วเข้าไปในโรงแรม
ด้านในโรงแรม มีมารอกันอยู่หลายท่านหน้าเดิมๆทั้งนั้น ตั้งแต่ ท่านผู้หญิงหนุ่ย พี่ติ๋มเหรัญญิกคนสวย น้องเปิ้ลเลขาที่แสนจะน่ารัก และก็น้องอึ่ง เอ้ย!น้องฐาคนงาม นั่งอยู่ที่ lobby คุยกันอยู่ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในช่วงที่ไม่เจอกันแล้วก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน 18.30 น.เราก็เริ่มย้ายไปลงเรือนับสมาชิกได้ 12 ท่าน มี พี่เข็ม พี่หนุ่ย พี่ติ๋ม พี่พร พี่กร พี่โจ๊ก น้องป่าน น้องเปิ้ล น้องหวาน น้องฐา พี่จ๋า และก็ตู่ นอกนี้ยังมี พี่โต้งแฟนพี่จ๋าและหลานๆมาร่วมโต๊ะอีก 7 ท่าน รวมแล้ว 19 ท่าน กว่าจะจัดโต๊ะให้ลงตัวได้ทำเอาบริกรหน้างอเป็นจวักไปเลย
หลังจากสั่งอาหาร เราคิดค่าอาหารแล้วรีบแชร์กันออก งานนี้จ่ายค่าเรือให้เจ้จ๋าเจ้าของ member คนละ 100 บาท ค่าอาหารอีกคนละ 300 บาท รวม 400 บาท ก็ถือว่าคุ้มนะคะ อาหารเริ่มเสริฟ หลายท่านก็เริ่มทานกินไป คุยกันไป บางคนได้ครึ่งจาน บางคนหมดจาน บางคนขอเพิ่ม บางคนขอเบิ้ล บางคนสามจาน บางคนสี่จาน บางคนจะขอห่อกลับบ้าน บางคนขอน้ำ ขอทิชชู ขอน้ำแกงเพิ่ม ขอไวน์ ขออัลกอฮอร์เติมไฟ ขอผ้าเช็ดน้ำที่หกเปียก ขอกุ้ง ขอเมี่ยงคำ ขอผลไม้ ขอไปเข้าห้องน้ำ ขอ..ขอ..ขอ.. และก็ ขอ
งานนี้บริกรบอกว่าต้องบริการแบบ "ขอไปที"จนเราต้องร้องขอบริกรเป็นครั้งสุดท้ายว่า "ขอให้ยิ้มๆหน่อย!"
จัดการกับอาหารเรียบร้อยแล้วเรือก็เริ่มออกจากท่า ตอนนั้นเวลาประมาณ 20.10 น.พวกเราก็เฮละโลกันขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือสายลมที่พัดมา โรสจำได้ว่าแรงพอๆกับที่โรสยืนอยู่ที่หัวเรือกับเจ็คคืนนั้นบนเรือไททา.. หุหุ.. ไปดูวิวสองฝั่งเจ้าพระยายามค่ำ บ้านริมน้ำ โรงแรม ตึก อาคารที่ทำการสูงตระหง่านระฟ้า วัดวาอาราม สะพานข้ามแม่น้ำที่เรือลอดผ่าน รถยนต์ที่วิ่งข้ามหัวไปมา เรือสำราญที่แล่นสวนไปสวนมา เรือขนถ่ายสินค้าที่จอดชายฝั่ง ผู้คนที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆ กรุงเทพฯยามราตรียังไม่หลับ ยังสับสน วุ่นวาย เหมือนกับในเรือลำนี้ ด้านล่างหน้าเวที นักร้องสาว-หนุ่มกำลังร้องเพลงในจังหวะ โจ๊ะ จ๊ะ นักดิ้นก็ออกมาวาดลวดลายกันหน้าเวที พวกเรากลับลงมาข้างล่างเมื่อเรือเริ่มหันหัวเรือกลับ เข้ามาในเรือได้ยินเสียงเพลงอวยพรวันเกิดให้สำหรับคนที่เกิดในวันนี้ 31 พ.ค.เราก็เลยเข้าไปแจมกับเขา แล้วก็รับเค้กก้อนใหญ่มานั่งทานกัน เสริมสร้างไขมันสะสมไว้เยอะๆ อายุมากแล้วต้องดูดีมีราศรีไว้ก่อน..555
จากนั้นเราก็เข้าครอส สลายไขมัน พี่ติ๋มมาชวนตู่ไปหน้าเวที ตู่ก็เลยพาพี่ติ๋มรีดไขมัน ด้วยการออกไป แฮร์โทนิค เอ้ย! แอโรบิคแดนซ์ ซะครึ่งชั่วโมง ได้เหงื่อแล้วก็กลับมานั่งพัก อ้าว!เลิกงานพอดี
พี่ติ๋มแจกใบประกาศให้แต่ละคนที่มาร่วมงาน พี่จ๋าก็ไม่ยอมน้อยหน้า หอบนาฬิกาตั้งโต๊ะมาแจกบ้าง ตู่ก็รับทั้งหมดไม่ปฏิเสธใครซักคน.. เดินขึ้นจากเรือ บริกรมายืนยิ้มอยู่ที่ประตูเป็นแถว กล่าวคำขอบคุณคราวนี้ยิ้มจนปากกว้างถึงใบหู ผิดกับตอนที่กำลังทำหน้าที่คงจะดีใจอไรบ้างอย่าง..
ด่านสุดท้าย รูปภาพแห่งความประทับใจ มีภาพของเราๆท่านๆขณะที่อยู่บนเรือติดอยู่บนจานที่ระลึก 20 ปี ของโรงแรมริเวอร์ไซด์ ขายราคา 199 บาท มีโปรโมชั่นบัตรขึ้นเรือ 1 ท่าน ราคา 120 บาท หมดอายุ 31 ส.ค.31 ให้ฟรี 1 ใบ หลายๆคนก็ซื้อเก็บไว้ที่ลึกๆ!!!
ขากลับ ตู่กลับรถน้องป่าน (พี่ชายของหยั่นหว่อหยุ่น) ผู้โดยสารที่เป็นเพื่อนร่วมทางก็มี พี่หนุ่ย พี่พร ฐาและป่าน ป่านส่งพี่ตู่ เป็นคนแรก แล้วก็พี่พรที่ รพ.พระนั่งเกล้า ฐาถนนสนามบินน้ำ และพี่หนุ่ยเป็นคนสุดท้ายที่ ปากเกร็ด

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น